Home | News (New Product)
KEY WORLD จับมือพันธมิตร เปิดตัวนวัตกรรมเครื่องทำกุญแจล่าสุด พร้อมขยายโอกาส สู่ผู้สนใจแฟรนไชส์ทั่วประเทศ
เขียนโดย Admin เมื่อ 29 มิถุนายน 2556 เวลา 10:35:07 น. | ผู้เข้าชม 15517 ครั้ง

    KEY WORLD  ผู้ให้บริการทำธุรกิจกุญแจครบวงจร และบริการ 24 ชั่วโมง โดยมีสาขาเครือข่ายแฟรนไชส์กว่า 58 แห่ง  ทั่วประเทศ ได้พัฒนาเทคโนโลยีไม่หยุดนิ่ง ล่าสุดจับมือกับพันธมิตร บริษัทผู้ผลิตเครื่องทำกุญแจ ชั้นนำของโลก ซิลก้า ผู้ผลิตเครื่องทำกุญ ทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟท์แวร์ จากอิตาลี   และมินดา ผู้ร่วมผลิตและพัฒนานวตกรรมด้านกุญแจ จากอินเดียโชว์ เครื่องทำกุญแจใหม่ล่าสุด ผลิตกุญแจฝังชิพ และเครื่องทำกุญที่รองรับการใช้งานในตลาดเอเชีย พร้อมตั้งเป้าขยายบริการครอบคลุมทั่วประเทศ

 


    คีย์เวิลด์ เป็นผู้ให้บริการด้านธุรกิจกุญแจอย่างครบวงจร โดย บริการเปิดกุญแจบ้าน รถ ตู้เซฟ ทุกชนิด บริการรับทำกุญแจ (ปั๊มกุญแจ) ทุกประเภท เช่น กุญแจรถยนต์ กุญแจบ้าน กุญแจหัก กุญแจที่ฟันสึก เป็นต้น และรับผลิตกุญแจตามสั่ง เช่น  กุญแจที่ใช้ สำหรับหอพัก โรงแรม รีสอร์ท เป็นต้น รวมทั้งจำหน่ายกุญแจกันขโมยสำหรับบ้านทุกชนิด กุญแจกันขโมยรถยนต์ และจำหน่ายตู้เซฟด้วย

     คีย์ เวิลด์ เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2525 และ เมื่อปี 2541 ได้เริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบ ภายใต้แบรนด์  คีย์เวิลด์เพื่อที่จะก้าวไปสู่ ระบบแฟรนไชส์   จึงเริ่มเรียนรู้ ที่จะสร้างระบบแฟรนไชส์ โดยอบรมหลักสูตร พัฒนาแฟรนไชส์  และเริ่มขยายกิจการระหว่างปี 2547-2553  พร้อมกับได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ตรงกับความต้องการของผู้ลงทุน และลดระดับการลงทุนในการเปิดร้านให้น้อยลง ภายใต้ชื่อ แบรนด์ใหม่ว่า BIG KEY ในปี  2553 ด้วยการลงทุนที่น้อยกว่า และง่ายกว่านี้ ทำให้บิ๊กคีย์ ขยายสาขาไปอยากก้าวกระโดด ภายใน 3 ปี มีบิ๊กคีย์เปิดมากกว่า 58 สาขา

 



การลงทุนกับกิจการของคีย์เวิลด์  มีในรูปแบบของประเภทต่างๆ คือ

1.ประเภทตัวแทน  จะเป็นรายบุคล ผู้ให้บริการทำกุญแจ เสริมในจุดที่ไม่มีร้านบิ๊กคีย์เปิด จะเป็นช่างกุญแจอยู่แล้วที่ต้องการฝึกทักษะเพิ่ม โดยมีค่าบริการในการอบรมประมาณ 30,000 บาท

2.BIG KEY   เพื่อตอบสนอง กลุ่ม SME ที่ต้องการธุรกิจขนาดเล็ก บิ๊กคีย์ จึงมีรูปแบบการลงทุนในงบประมาณเพียง 80,000-150,000 บาท ในพื้นที่ในการทำงานเพียง 4-24 ตารางเมตร ใช้คนในการทำงานน้อยกว่า เพียง 1-2 คน เท่านั้น บิ๊กคีย์เน้นบริการที่รวดเร็ว ในแหล่งชุมชนเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนที่มีความต้องการเร่งรีบ บิ๊กคีย์ให้บริการเปิดกุญแจบ้าน รถ โดยเน้นบริการนอกสถานที่เป็นหลัก

3.KEY WORLD  เป็นศูนย์รวมกุญแจ ที่ให้บริการแบบครบวงจร เนื่องจากเทคโนโลยีการผลิตกุญแจรุ่นใหม่ ทำให้ช่างกุญแจทั่วไปเกิดข้อจำกัด  ไม่สามารถให้บริการทำกุญแจที่มีเทคโนโลยีที่สูงขึ้นได้  จึงเป็นโอกาสในการขยาย สาขาคีย์เวิลด์ภายใต้ แนวคิดเดิม คือเป็นศูนย์บริการ ใช้พื้นที่ในการทำงาน 80-100 ตารางเมตร ใช้พนักงานประจำร้าน  4-8 คนไม่เน้นบริการฉุกเฉิน  24 ชม แต่จะเน้นขยายสาขาในจังหวัดใหญ่ๆเท่านั้นใช้งบในการลงทุน 1,500,000-5,000,000 และเป็นศูนย์กลางที่ให้บริการอย่างครบวงจร คือ ปั๊มกุญแจ จำหน่ายกุญแจบ้าน กุญแจรถ เปิดตู้เซฟ จำหน่ายกุญแจกันขโมย ทำคีย์การ์ด ติดตั้งสัญญานกันขโมยตามบ้าน ร้านค้า และสำนักงานต่างๆ เป็นต้น





ปัจจุบัน เครือข่าย ของช่างกุญแจ และร้านกุญแจ บิ๊กคีย์ คีย์เวิลด์ มีอยู่ทุกภาคของประเทศไทย  เช่น

  • ภาคเหนือ ที่จังหวัด เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ เป็นต้น ภาคกลาง เช่น ที่กำแพงเพชร ชัยนาท นครปฐม นครสวรรค์ นครนายก ปทุมธานี อยุธยา พิจิตร  เป็นต้น
  • ภาคอีสาน เช่น กาฬสินทร์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม บุรีย์รัมย์ บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม  เป็นต้น
  • ภาคใต้ กระบี่ ชุมพร ตรัง นครราชสีมา นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ระนอง สตูล สงขลา ฯลฯ
  • ภาคตะวันออก เช่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ปราจีนบุรี ระยอง ชลบุรี สระแก้ว ตราด เป็นต้น
  • กรุงเทพ เช่น  บางนา ลาดพร้าว รัชดา รัชโยธิน พระราม 9 สุขาภิบาล สาธร บางแค รามคำแหง ฯลฯ


    นอกจากนี้แล้ว คีย์เวิลด์ ยังมี นักธุรกิจคนไทย ได้มาศึกษาและนำไปเปิดกิจการในประเทศอื่นๆด้วย เช่น สิงคโปร์ ลาว จีน แคลิฟอร์เนีย เป็นต้น

 



     คมเดช ได้ให้ความเห็นในเรื่องของตลาดธุรกิจกุญแจว่า “เมื่อประมาณปี 2545 ช่างกุญแจมีประมาณ 5,000 คน ต่อคนไทย 60 ล้านคน ซึ่งถือว่ายังน้อยอยู่ จนถึงขณะนี้ปี 2556 ช่างกุญแจก็ขยายไปแค่ 6,500 คน ก็ถือว่าจำนวนช่างเพิ่มมากขึ้น แต่เทคโนโลยีเรื่องกุญแจมีความก้าวหน้ามากขึ้นตลอดเวลา ทำให้ความสามารถของช่างทำกุญแจมีข้อจำกัด อาจไม่สามารถทำกุญแจบางประเภทได้ โดยเฉพาะกุญแจฝังชิพ ที่เป็นระบบไฟฟ้า  หรือที่เรียกว่า Emobilizer  และ  เทคโนโลยีด้านระบบกุญแจ อันทันสมัยและระบบกันขโมย กุญแจอัจฉริยะต่างๆเช่น Smart key ,Push start  คีย์เวิลด์จึง เห็นเป็นโอกาส ตอบสนองความต้องการด้านกุญแจอัจฉริยะต่างๆ เหล่านี้ โดยเสาะหา เครื่องมือ ด้านนี้และนำเข้ามาเพื่อให้ทันกับความต้องการ ที่มีมากขึ้น เพื่อที่จะทำราคาจำหน่ายลดลง  และไม่ต้องเข้าศูนย์ เสียเวลานานเป็นอาทิตย์ หรือเป็นดือน และในขณะเดียวกัน คีย์เวิลด์ ก็ได้พบอุปกรณ์ เครื่องทำกุญแจที่มีรูปทรง สวย งาม น่าใช้ ทันสมัยของ Silca  จากอิตาลี จึงเกิดความร่วมมือกันทางธุรกิจ  เพื่อที่จะขยาย  สินค้า ด้านเทคโนโลยีต่างๆให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด

 



     บริษัท ซิลก้า จากประเทศอิตลี ซึ่งเป็นบริษัทที่มีเทคโลยีในด้านการทำเครื่องกุญแจ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในวงการอย่างสูง  จุดเด่นของ ซิลก้านั้น เป็นผู้พัฒนาด้านซอฟแวร์ และฮาร์ดแวร์ กุญแจฝังชิพ อีโมบิไลเซอร์ โดยมีโรงงานผลิตในประเทศต่างๆ เช่น อินโดนีเซีย อินเดีย เวียดนาม เป็นต้น เพื่อพัฒนาทำให้ต้นทุนของสินค้ามีราคาถูกลง และกระจายไปในประเทศต่างๆได้ และบริษัท มินดา  จากอินเดีย ซึ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่ผลิตสินค้าหลากหลาย ด้านฮาร์ดแวร์ต่างๆและเครื่องมืออุตสาหกรรมต่างๆ  ซึ่งบริษัทมิดา ก็มีสินค้าด้านอุปกรณ์สำหรับร้านฮาร์ดแวร์ รวมถึงสินค้าประเภทเครื่องมือช่างด้วย  จึงร่วมมือกัน ผลิตสินค้าทางด้านกุญแจ และพัฒนาเครื่องทำกุญแจร่วมกัน

     ทั้งซิลก้า และมินดาได้ให้ความไว้วางใจ ให้คีย์เวิลด์ เป็นตัวแทนจำหน่าย เครื่องทำกุญแจของบริษัทชั้นนำ  เนื่องจากเห็นว่าคีย์เวิลด์ มีความมุ่งมันที่จะพัฒนาธุรกิจกุญแจให้เติบโต  และมีแนวทางการทำธุรกิจที่เข้ากันได้ดี  จึงนำมาสู่การเป็นพันธมิตรกัน  เพื่อให้คีย์เวิลด์ เป็นตัวแทนจำหน่าย เครื่องทำกุญแจนวตกรรมใหม่ ในประเทศไทย ซึ่งนำมาเปิดตัวครั้งนี้ คือ

1.Duo Plus  เป็นเครื่องที่พัฒนา ขึ้นมา เหมาะกับตลาดกุญแจย่านเอเชียโดยเฉพาะ มีความทนทานในการใช้งาน เหมาะสำหรับ ร้านกุญแจ อู่รถยนต์ โรงแรม รีสอร์ท และสำนักงาน ที่ต้องการเครื่องปั๊มกุญแจ จำนวนมาก

2.Easy เป็นเครื่องทำกุญแจที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สมกับชื่อของเครื่องนี้  และมีจุดเด่นที่เป็นเครื่องที่มีความเที่ยงตรงสูง ในการทำร่องหรือที่เรียกว่า ไกด์ อีกทั้งตัวเครื่องมีความสวยงาม น่าใช้ เหมาะสำหรับ ช่างกุญแจ ที่ต้องการเครื่องที่ทำงานง่ายขึ้น  และต้องการทำกุญแจให้ตรงตามต้นแบบสูง

3.Fast Coppy  เป็นเครื่องทำกุญแจฝังชิพ (Emobilizer)  ซึ่งเครื่องนี้กำลังอยู่ในระหว่างที่นำเข้ามาตามมา  เครื่องทำกุญแจ Fast Coppy นี้ มีความสามารถสูง ทำงานได้เร็ว ใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น ก็สามาถผลิตกุญแจฝังชิพได้ เหมาะสำหรับ ช่างกุญแจที่ต้องการขยายบริการรับทำกุญแจประเภทฝังชิพได้

 



     คมเดชได้เปิดเผยถึง สาเหตุที่เลือก เครื่องเหล่านี้ เข้ามาในประเทศไทยว่า  “หลายปีที่ผ่านมาผมพยายามจะหาบริษัทที่ทำครบทุกอย่าง ทั้งเรื่องของแบรนด์ วัตถุดิบ ความสามารถ หรือว่าเรื่องของอิเล็กทริกกับแมคคานิค  ซึ่งอิเล็กทริกก็หมายถึงพวกระบบกุญแจไฟฟ้าซึ่งบางบริษัทก็ไม่มี บางบริษัทอาจจะเก่งแมคคานิค แต่ดิจิตอลหรืออิเล็กทรอนิกส์ไม่เก่งเลย แต่สำหรับบริษัทซิลก้า มีทั้ง 2 อย่าง คือเก่งทั้งอิเล็กทริกและแมคคานิค ผมก็เลยคิดว่า ซิลก้า เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้”


     “เครื่องทำกุญแจในสมัยนี้จะไม่เน้นรูปทรง แต่จะเน้นการใช้งาน หรือมันอาจจะมีฟังก์ชั่นที่เยอะเกินความจำเป็น แต่ว่าของ Silca จะเน้นความสวยงามด้วย รวมทั้งรูปลักษณ์การใช้ แล้วก็ใส่ใจกับสิ่งที่เล็กๆน้อยๆ ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความรู้สึกของผู้ที่ใช้งานเครื่องทำกุญแจด้วย” สำหรับข้อสงสัย ที่คนส่วนมากมองว่า การสอนทำกุญแจ จะส่งเสริมมิจฉาชีพ มาเรียนแล้วนำไปใช้หรือไม่ เรื่องนี้ คมเดช อธิบายว่า “ถ้าเป็นโจร จะไม่ใช้กุญเหล่านี้  เพราะต้องใช้เวลาการทำนานเกินไป ส่วนใหญ่แล้ว โจรจะใช้วิธีในการทำลายมากกว่า คือ เกะ งัด ให้เสียหาย หรือทุบกระจก”

    ความร่วมมือ ระหว่าง คีย์เวิลด์  ซิลก้า และมินดา ในครั้งนี้ จะทำให้เพิ่มความสามารถของช่างกุญแจ ได้มาก ในการให้บริการลูกค้าได้ดี หลากหลายมากยิ่งขึ้น ที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับช่างกุญแจ คุณคมเดช ตั้งเป้าหมายว่า  นวัตกรรมเครื่องทำกุญแจนี้ จะขยายบริการได้มากกว่า 50 จุดภายในสิ้นปีนี้  โดยส่วนใหญ่ขยายในรูปแบบเสริมบริการให้กับร้านเดิมที่เปิดบริการอยู่แล้ว

 


     “ผมอยากให้แฟรนไชส์ของเรา สาขาของเราทุกคนใช้เครื่องทำกุญแจตัวนี้  สำหรับบุคคลภายนอกถ้าหากว่าสนใจ ถึงแม้ไม่ใช่แฟรนไชส์ก็สามารถใช้เครื่องนี้ได้เหมือนกัน คือเราจะโชว์ความเป็นเครื่องทำกุญแจที่เพียบพร้อมไปด้วยความสวยงาม  ความคงทน  น่าใช้ แต่ราคาไม่แพง คือ เราจะขายทุกอย่าง ทั้งกุญแจ ดอกกุญแจ ทำแบบครบวงจร โดยคอนเซ็ปต์ของเรา คือ การลงทุนที่ถูกกว่า แต่คุณภาพดี”

 


    ตลาดธุรกิจกุญแจ เป็นบริการที่เข้าถึงประชากรแทบทุกคน ทำให้มั่นใจว่า โอกาสของธุรกิจนี้ยังมีอีกมาก สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่อาชีพนี้  สำหรับเป้าหมายที่วางไว้ คุณคมเดช บอกว่า “ภายใต้แบรนด์ BIG KEY จะขยายอย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ปี ละ 20 สาขา และภายในปี 56 ต้องการที่จะเปิด KEY WORLD สาขาที่ หัวหิน อุดรธานี และ โคราช พัทยา และ เชียงใหม่   และภายในปี 58 ต้องการที่จะเปิด KEY WORLD เพิ่มขึ้น ที่ อินโดนิเซีย เวียดนาม ประเทศอื่นๆด้วย”

สนใจธุรกิจ โทร 089 890 9548 อ. คมเดช อุดมยิ่้งเจริญ http://www.thaikeyworld.com/fan.php


 

• แนะนำธุรกิจน่าลงทุน
ธุรกิจน่าลงทุนทั้งหมด