![]() |
Tweet |
การเป็นดีไซเนอร์ นอกจากมีพรสวรรค์ แล้วคุณต้องมีพรแสวง ซึ่งสิ่งที่ต้องแสวงคือการเรียนแพทเทิร์นเป็นพื้นฐาน เมื่อฝึกทักษะแล้วเอาไปใช้จริง จะได้รู้ว่าแบบไหนใช้ได้ หรือแบบไหนช่วยลดต้นทุน และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ความรู้ด้านการทำธุรกิจแฟชั่น
การเรียนตัดเสื้อของผู้หญิงในสมัยก่อน อาจเป็นการเรียนเพื่อประกอบอาชีพเพื่อเป็นช่างตัดเสื้อ ซึ่งในปัจจุบันอาจถูกมองว่าเป็นเรื่องที่ดูล้าสมัย แต่ในความเป็นจริงนั้นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง หากได้มารู้จักกับ “Bunka Fashion Academy” ที่จะมาพลิกความคิดเก่าๆ จากการเรียนตัดเย็บเพื่อเป็นช่างตัดเสื้อ ให้กลายเป็นดีไซเนอร์ระดับโลกที่จะสร้างรายได้มหาศาลเข้าสู่ประเทศเลยก็ว่าได้
“คุณสมพร สุนทรธำรง” รองผู้อำนวยการสถาบันบุนกะแฟชั่น เล่าว่า “สถาบันบุนกะแฟชั่น เป็นโรงเรียนเครือข่ายแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยจากประเทศญี่ปุ่น ภายใต้หลักสูตรมาตรฐานของ Bunka Fashion College ที่กรุงโตเกียว อันเป็นสถาบันแฟชั่นที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับ 1 ใน 3 ของโลก และอันดับ 1 ในเอเชีย โดยเป็นการร่วมมือระหว่าง Bunka Fashion College และบริษัทในกลุ่มเครือสหพัฒน์ ประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพ ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้แก่วงการแฟชั่นในอนาคต ซึ่งปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 9 แล้ว”
“ทางญี่ปุ่นจริงๆ เรียน 3 ปี แต่เราปรับหลักสูตรให้เหมาะสมกับประเทศไทย คือจะใช้เวลาเรียนเพียง 2 ปี แต่จะเข้มข้นและหนักพอสมควร ทั้งนี้จะเน้นการปฏิบัติ 60% เพราะฉะนั้นคนที่มาเรียนต้องมุ่งมั่นและตั้งใจจริงๆ สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานแต่มีความตั้งใจก็สามารถทำได้ เพราะปีแรก เราจะสอนพื้นฐานการตัดเย็บทุกอย่าง ส่วนปีที่สองจะเน้นเรื่องของการพัฒนาเรื่องฝีมือ ซึ่งแตกต่างจากเรียนในมหาวิทยาลัย คือ เราเน้นเรื่องการตัดเย็บแพทเทิร์น เพราะเราตระหนักว่าการเป็นดีไซเนอร์ที่ดีนั้นต้องมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของแพทเทิร์น เพราะสิ่งนี้จะทำให้เราสามารถทำตามรูปแบบที่ต้องการได้ไม่ยาก”
ในส่วนของนักเรียนที่มาเรียนกับบุนกะแฟชั่น ส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มที่จบม.6แล้วมาศึกษาต่อโดยตรง
2.กลุ่มที่จบมหาวิทยาลัยแล้วมาเรียนเพิ่มเติม
3.กลุ่มที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพ ซึ่งหลังจากเรียนจบแล้ว
แนวทางการประกอบอาชีพนั้นมีหลากหลาย บางคนต้องการทำธุรกิจส่วนตัว เป็นดีไซเนอร์ สไตล์ลิสต์ หรือแม้แต่การวางแผนการผลิตให้กับโรงงานก็สามารถทำได้ “แต่สำหรับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจของตัวเอง อยากแนะนำว่าถ้าเรียนจบแล้ว ควรหาประสบการณ์กับการทำงานกับบริษัทด้านนี้สัก1-2 ปี เพื่อเป็นแนวทางในการลงทุน หรือการทำเสื้อผ้าขายตามเว็บไซต์ก็ลดความเสี่ยงได้เช่นกัน นอกจากนี้การมองหาแบรนด์ที่ตรง
กับคาแรกเตอร์ของเรา เพื่อนำเสนอผลงานเข้าไปฝากขายก็น่าสนใจไม่น้อย หรือบางคนอยากจะเข้าทำงานกับเครือสหพัฒน์ ก็รับรองว่าถ้าจบมาจากบุนกะแฟชั่น จะได้รับเงินเดือนสูงกว่ามาตรฐานอย่างแน่นอน รองผอ.การันตี
ทั้งนี้ตลาดแฟชั่นในปัจจุบันที่กำลังก้าวสู่อาเซียน รวมทั้งการได้รับการส่งเสริมจากหลายภาคส่วน ที่พร้อมผลักดันแบรนด์ไทยสู่สากล บวกกับฝีมือของคนไทยที่มีจุดเด่นเรื่องความละเอียด ประณีตรับรองว่าดีไซเนอร์ไทยอนาคตไกลแน่นอน
รายละเอียดการเรียนหลักๆ มี 2 หลักสูตร
1.Full Course เปิดสอนหลักสูตรระยะยาว (Full Course) 2 ปี ภายใต้หลักสูตรอันเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกของ Bunka Fashion College ทฤษฎีและปฏิบัติอย่างลึกซึ้งถ่องแท้ พร้อมก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพในวงการแฟชั่นต่อไป โดยปีแรกเสริมสร้างทักษะทางด้านแฟชั่นด้วยหลักสูตร Fashion Creation และพัฒนาสู่ระดับมืออาชีพในปีที่สองด้วยหลักสูตร Fashion Professional
2.ShortCourse เพื่อจัดสอนวิทยาการแฟชั่นเฉพาะสาขาให้กับผู้ที่สนใจได้แก่ การตัดเย็บเสื้อ, กระโปรง, กางเกงเบื้องต้น (Dressmaking I) / หลักสูตรการตัดเย็บชุดไทย / Men’s Shirt / Men’s Pants / เสื้อสุนัข / ชุดตุ๊กตาหมี / ชุดตุ๊กตาทั่วไป / การตัดเย็บชุดเดรส / Jacket / Fashion Drawing / Principle of Apparel Merchandise / Fashion Drawing 2 / Trend Analysis / Fashion Business
ขอขอบคุณ : สถาบันบุนกะแฟชั่น
323 อาคารยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ ชั้น16 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
โทร.0-2235-8240-2